HIFU (ไฮฟู) กับ ร้อยไหม แบบไหนดีกว่ากัน ?
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีและวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าของเราให้เป๊ะขึ้นมากมาย เช่น การทำไฮฟู (HIFU) ที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงมาช่วยยกกระชับผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วรอยต่างๆ หรือการร้อยไหม วิธีที่จะช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยมากๆ ให้ตึงกระชับทันที แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของชั้นผิวให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย แล้วระหว่าง ไฮฟู (HIFU) กับ ร้อยไหม แบบไหนดีกว่ากัน ? จะเลือกทำอะไรดี ? มาดูคำตอบกันเลย

ไฮฟู (HIFU) คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ?
ไฮฟู (HIFU) คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ?
ไฮฟู (HIFU) คือ High Intensity Focus Ultrasound เทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวด้วยการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังเข้าไปลึกถึงผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นผิวชั้นลึกที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า โดยคลื่นอัลตร้าซาวด์จะทำให้ผิวหนังเกิดการหดตัวคล้ายกับการเย็บผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด ช่วยให้ผิวยกกระชับขึ้น ทำให้ผิวดูแน่น ผิวดูฟู และรูขุมขนดูเล็กลง
การทำไฮฟู (HIFU) เหมาะกับคนที่อยากแก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย อยากยกกระชับผิว อยากลดเหนียงใต้คาง ยกแนวคิ้ว แก้ปัญหาหนังตาตก ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า หรือแก้ปัญหาตามจุดต่างๆ บนใบหน้า โดยที่ไม่อยากใช้เข็มให้เจ็บตัวหรือไม่อยากพักฟื้นผิวหน้า
ผลลัพธ์หลังทำไฮฟู (HIFU) ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังทำไฮฟู (HIFU) จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำประมาณ 20% และผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 2 เดือน โดยจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของแต่ละคนหลังทำด้วย
ทำไฮฟู (HIFU) เจ็บไหม ? ราคาเท่าไหร่ ?
ข้อดีของการทำไฮฟู (HIFU) คือ จะไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องพักฟื้น และไม่รู้สึกเจ็บ เวลาทำมักจะรู้สึกอุ่นๆ ตึงๆ ใต้ผิวบริเวณที่ทำ เพราะคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่ใช้ทำมีความเข้มข้นสูงจนทำให้ประสาทสัมผัสไม่สามารถสัมผัสได้ ส่วนราคาในการทำไฮฟู (HIFU) นั้นเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาท ไปจนถึง 50,000 บาท

ร้อยไหมคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง
ร้อยไหม คืออะไร เหมาะกับใครบ้าง ?
การร้อยไหม คือ การยกกระชับผิวด้วยการนำไหมละลายร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ และเส้นไหมที่ร้อยเข้าไปจะช่วยยกชั้นผิวให้ผิวดูกระชับขึ้นทันทีหลังทำ จึงช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ดี และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของชั้นผิวด้วย
การร้อยไหมเหมาะกับคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ผิวไม่เต่งตึง หรือคนที่มีปัญหารูปหน้าไม่เรียวกระชับ อยากปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น และคนที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย อยากอัพลุคให้หน้าดูเด็กลง ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น
ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ทำแล้วอยู่ได้นานไหม ?
หลังการร้อยไหม เราจะเห็นถึงผลลัพธ์ทันทีว่าหน้ายกกระชับขึ้น และจะเห็นผลลัพธ์ชัดมากขึ้นภายใน 3 เดือน ส่วนการร้อยไหมจะอยู่ได้นานแค่ไหน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่เลือกใช้ด้วย ถ้าเป็นไหม PDO จะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน และถ้าเป็นไหม PCL จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ร้อยไหม เจ็บไหม ราคาเท่าไหร่ ?
หลายคนมักจะกังวลว่าการร้อยไหมนั้นต้องเจ็บแน่ๆ ส่วนความจริงคือ ก่อนจะทำการร้อยไหม แพทย์จะใช้ยาชาทั้งแบบฉีดและทาเพื่อลดความเจ็บปวดขณะร้อยไหม ทำให้เราไม่รู้สึกเจ็บเลย หรืออาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ไปจนถึง 30,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นไหมและจำนวนเส้นไหมที่ใช้ด้วย

ไฮฟู (HIFU) กับ ร้อยไหม เลือกทำอะไรดี
ไฮฟู (HIFU) กับ ร้อยไหม เลือกทำอะไรดี ?
การทำไฮฟู (HIFU) นั้นเหมาะกับคนที่อยากยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า หรือแก้ปัญหาตามจุดต่างๆ บนใบหน้า โดยที่ไม่อยากใช้เข็ม ไม่อยากผ่าตัด หรือไม่อยากพักฟื้นผิว เพราะหลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถแต่งหน้าทาครีมได้ทันทีหลังทำ และขณะที่ทำก็จะไม่รู้สึกเจ็บใดๆ หลังก็จะไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่มีรอยเข็ม และเห็นถึงผลลัพธ์ทันทีหลังทำ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าการร้อยไหม
การร้อยไหมนั้นเหมาะสำหรับคนที่อยากยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยมากๆ ให้ผิวตึงกระชับขึ้น และเหมาะกับคนที่อยากปรับรูปหน้าให้เป๊ะขึ้น อยากอัพลุคให้ดูเด็กลง เพราะหลังจากร้อยไหมเสร็จ เราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีว่าผิวตึงกระชับขึ้นมากกว่าเดิม จึงเหมาะกับคนที่ผิวหย่อนคล้อยมากๆ และไม่กลัวเข็ม ที่สำคัญคือราคาเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์มากๆ
สรุปสั้นๆ ได้เลยว่า ใครที่เป็นทีมกลัวเข็มแนะนำให้ทำไฮฟู (HIFU) ส่วนทีมไม่กลัวเข็มและอยากยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยมากๆ แนะนำให้เลือกร้อยไหมค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะตัดสินใจทำ เราก็ขอแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดีก่อน และควรเลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดน๊า