HIFU กับ Ulthera แตกต่างกันอย่างไร
เมื่อผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับเต่งตึง เริ่มมีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน มีริ้วรอยก่อนวัย การใช้เทคโนโลยีในการช่วยแก้ปัญหาผิวถือเป็นทางเลือกยอดฮิตในปัจจุบัน เพราะเห็นผลเร็ว ทำแล้วเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันที ซึ่งเทคโนโลยียอดฮิตที่เราอยากแนะนำคือการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงในการรักษาอย่าง การทำไฮฟู (HIFU) และ Ulthera (อัลเทอร่า )แล้วทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร จะเลือกทำอะไรดี คำตอบอยู่ด้านล่างเลยจ้า

HIFU กับ Ultera
ไฮฟู (HIFU) คืออะไร
ไฮฟู (HIFU) เป็นนวัตกรรมการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังเข้าไปเพื่อกระตุ้นเนื้อเยื่อในชั้นผิว SMAS เพื่อกระตุ้นจนเกิดการสร้างเนื้อเยื่อ เส้นใยอีลาสติน และคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ หลังทำจึงรู้สึกว่าผิวยกกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง และผิวเรียบเนียนขึ้น
-
ไม่ใช้เข็ม ไม่บวมแดง ไม่ต้องพักฟื้นผิว คือจุดเด่นของการทำไฮฟู (HIFU) จึงเหมาะกับคนที่อยากแก้ปัญหาผิวหน้าโดยที่ไม่อยากใช้เข็ม หรือต้องการไปออกงานแบบเร่งด่วน โดยระหว่างที่ทำไฮฟูจะไม่รู้สึกเจ็บ อาจจะรู้สึกอุ่นๆ จี๊ดๆ ในบริเวณที่ทำเล็กน้อยเท่านั้น
-
การทำไฮฟูจะมีความใกล้เคียงกับการทำ Ulthera แต่ไฮฟูจะราคาถูกกว่า โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาท ส่วนผลลัพธ์และระยะเวลาในการเห็นผลนั้นจะน้อยกว่า Ulthera
ไฮฟู (HIFU) เหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับเต่งตึง
-
คนที่มีปัญหาเหนียงใต้คาง อยากลดไขมันที่แก้ม อยากเก็บกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
-
คนที่มีปัญหาหนังตาตก อยากยกแนวคิ้ว ยกหางตา
-
คนที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน อยากลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
ไฮฟู (HIFU) ทำแล้วอยู่ได้นานไหม
การทำไฮฟู (HIFU) จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี โดยจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ และผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 2 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังทำและสภาพผิวของแต่ละคนด้วย

Ulthera (อัลเทอร่า) คืออะไร
Ulthera (อัลเทอร่า) คืออะไร
Ulthera(อัลเทอร่า) คือ เทคโนโลยีการใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูง MFU-V (Microfocus Ultherasound with Visualization) ส่งพลังลงลึกไปถึงชั้นผิว SMAS เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัวเหมือนกับการเย็บชั้นเนื้อเยื่อ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ลึกถึงชั้นผิว SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ช่วยให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังทำ
-
ยกกระชับผิิวได้อย่างแม่นยำ คือจุดเด่นของ Ulthera เพราะแพทย์จะสามารถมองเห็นชั้นผิวหนังผ่านหน้าจอในขณะทำแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถประเมินและควบคุมการยิงทุกชอตของ Ulthera ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และตรงจุดกกว่าการทำไฮฟู (HIFU)
-
มีความปลอดภัยสูง Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรอง FDA จากอเมริกา ยุโรป และไทย ว่าสามารถช่วยยกกระชับผิวบริเวณใบหน้าและลำคอได้จริง และมีความปลอดภัยสูงมาก
-
การทำ Ulthera อาจมีความคล้ายคลึงกับการทำไฮฟู (HIFU) คือ ทำแล้วไม่บวม ไม่มีรอยแผล ผิวไม่เบิร์น และไม่ต้องใช้เข็ม แต่ Ulthera จะให้ผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดีกว่า เพราะสามารถยิงลงไปได้ตรงจุดทุกชอตที่ยิง ทำให้มีราคาแพงกว่า โดยราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาท

Ulthera (อัลเทอร่า) เหมาะกับใครบ้าง
Ulthera (อัลเทอร่า) เหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
-
คนที่มีปัญหาเหนียงใต้คาง คางสองชั้น ลำคอเหี่ยวย่น
-
คนที่มีปัญหาถุงใต้ตา หางตาตก คิ้วตก
-
คนที่มีปัญหาแก้มห้อยแก้มหย่อน
-
คนที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย เช่น ริ้วรอยที่ร่องแก้ม
Ulthera (อัลเทอร่า) ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
หลังทำ Ulthera เราก็จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำประมาณ 20-30% ว่าผิวยกกระชับและเรียบเนียนขึ้น และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 1-3 เดือน โดยจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี การทำ Ulthera ต่อเนื่องปีละครั้งจะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี หน้าดูเด็กลงกว่าคนในวัยเดียวกันอีกด้วย ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวหลังทำด้วย

HIFU กับ Ulthera เลือกทำอะไรดี
HIFU กับ Ulthera เลือกทำอะไรดี
-
ไฮฟู (HIFU) และ Ulthera เป็นการใข้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงที่ลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวลึกสุด โดยจะช่วยยกกระชับผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว การทำไฮฟู (HIFU) และ Ulthera ได้รับความนิยมเหมือนกันเพราะไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่บวมช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น และไม่รู้สึกเจ็บในขณะที่ทำ
-
ไฮฟู (HIFU) และ Ulthera แม้จะเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกัน โดยเครื่อง Ulthera จะมีระดับพลังงานสูงกว่า ทำให้ผลลัพธ์ที่ทำออกมาชัดเจนและยาวนานกว่าการทำไฮฟู (HIFU) และการทำ Ulthera ยังมีหน้าจอที่สามารถเห็นชั้นผิวขณะยิงแบบเรียลไทม์ ทำให้รักษาได้ตรงจุดและแม่นยำมากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความเจ็บที่มากกว่า บางคนอาจจะทนไม่ได้ และราคาที่สูงกว่า 2-3 เท่าตัว
-
จุด Focus ของเครื่องไฮฟู (HIFU) จะมีขนาดเล็กไปจนถึงกลาง ส่วนของเครื่อง Ulthera จะมีจุด Focus ขนาดใหญ่กว่า จุด Focus นั้นถ้ายิ่งใหญ่จะยิ่งดี เพราะมันส่งผลต่อการคงอยู่ของผลลัพธ์ ยิ่งมีขนาดใหญ่ ผลลัพธ์ก็จะดีและอยู่ได้นานมากขึ้น
-
ไฮฟู (HIFU) และ Ulthera มีความปลอดภัยสูงทั้งคู่ โดยผ่านมาตฐานอยของไทย (แต่ต้องเลือกรุ่นที่ได้มาตฐานนะคะ) แต่ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรอง FDA จากอเมริกา ยุโรป และไทย ว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับผิวได้จริงในระดับสากล
หลายคนน่าจะเริ่มเก็ทแล้วว่า HIFU กับ Ulthera แตกต่างกันอย่างไร เพราะถึงแม้จะใช้วิธีเดียวกัน คือใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงในการช่วยแก้ปัญหาผิวไม่กระชับเต่งตึง ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน หรือแก้ปัญหาเหนียงใต้คาง โดยที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่เจ็บ และหลังทำก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที แต่ Ulthera (อัลเทอร่า )จะรักษาได้แม่นยำกว่า เพราะมีหน้าจอที่สามารถดูชั้นผิวได้ในขณะที่ทำ จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพกว่า